Product

สายตายาวตามอายุ ดำscuba

สายตายาวตามอายุ มองใกล้ๆไม่ชัด ดำ scuba ยังไง

สายตายาวตามอายุ ดำscuba

เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ สายตายาวตามอายุที่ทุกคนต้องเป็นสายตายาวตามอายุ ดำscuba และสิ่งที่พลาดคือสัตว์เล็กใต้ทะเลที่สวยงาม

สายตายาว ดำscuba
Nudibranch
สายตายาว ดำscuba
Pygmy seahorse
สายตายาว ดำscuba
Mysis shrimp

มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ

สายตายาวตามอายุ เป็นเรื่องกายภาพของคนเรา ที่เลนส์ตาเริ่มทำงานไม่เท่าเดิม 

มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
เลนส์ตาจะแบนลงเมื่อเรามองไกล ทำให้ตาเรา relax แต่เมื่อต้องมองอะไรใกล้ เลนส์ตาจะพองขึ้น เพื่อปรับโฟกัสการมอง ที่เรียกว่า การเพ่ง หรือ accommodate

จะช้าจะเร็วเราก็ต้องมีแว่นอ่านหนังสือในชีวิต เราไม่สามารถเอาชนะกาลเวลาได้ ต่อให้ไปทำ เลสิก เราก็ยังต้องใส่แว่นอยู่ดี เมื่อถึงเวลานั้น

สายตายาว ดำscuba
แว่นอ่านหนังสือคือ เป็นเลนส์มองระยะเดียวชนิดหนึง ที่ใช้สำหรับมองใกล้อย่างเดียว มองไกลไม่ได้ จะปวดหัว คลื่นไส้

การตัดแว่นตาใส่เพื่อช่วยให้เรามองเห็นในระยะใกล้ เช่น แว่นอ่านหนังสือ 

สายตายาวตามอายุ ดำscuba
แว่นคือสิ่งจำเป็น เมื่อเราอายุมากขึ้น

และ แว่นโปรเกรสซีฟ คือความต้องการที่เพิ่มมาจากแว่นอ่านหนังสือ เพราะใช้งานได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องถอดเข้าออก ใส่ได้ทั้งวัน มองชัดทุกระยะ 

สายตายาวตามอายุ ดำscuba
แว่นโปรเกรสซีฟ
สายตายาว ดำscuba
เลนส์โปรเกรสเป็นเลนส์ที่ใช้มองทุกระยะ ไกล กลาง ใกล้ เป็นแว่นที่เราไม่ต้องถอดเข้าออก ใส่ติดหน้าได้เลย

คนดำ scuba ที่เมื่อก่อนสายตาปกติ เมื่ออายุมากขึ้น ถ้าต้องการมองสัตว์น้ำตัวเล็กๆ ก็ต้องใส่แว่นช่วยในการมอง เหมือนเราต้องใส่แว่นอ่านหนังสือ

สายตายาว ดำscuba
คนที่ใส่แว่นสำหรับมองไกล เมื่ออายุมากขึ้น ก็จะมีค่าสายตามองใกล้ เพิ่มเข้ามา

ส่วนคนที่ใส่แว่นอยู่แล้วตอนดำ scuba จะใช้เลนส์มองระยะเดียว เมื่ออายุมากขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเลนส์มอง 2 ระยะ จึงจะมองเห็นสัตว์น้ำตัวเล็กๆ

สายตายาว ดำscuba

การตัดแว่นสายตาติดหน้ากากดำน้ำ หรือ scuba spectacle insert จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนสายตายาวตามอายุ

สายตายาว ดำ scuba
ตัวอย่างเลนส์ bifocal บบ no line ที่ใช้มอง 2 ระยะ ที่มีค่าสายตามองไกล และ มองใกล้
สายตายาว ดำscuba
อีกตัวอย่างของเลนส์ bifocal ที่ไม่มีค่าสายตามองไกล แต่มีค่าสายตามองใกล้อย่างเดียว
สายตายาว ดำscuba
ตัวยึดแว่นตา กับหน้ากาก scuba
สายตายาว ดำscuba
เมื่ออายุมากขึ้น แว่นสายตาคือตัวช่วยในการมองเห็น

การตัดเลนส์สายตายาวตามอายุ จะใช้เลนส์ที่เรียกว่า bifocal หรือ เลนส์มอง 2 ระยะ คือมองไกล (บางคนอาจมี หรือไม่มีค่าสายตาเลย ก็ได้) และ มองใกล้ (ค่าตัวนี้จะเท่ากับแว่นอ่านหนังสือ)

สายตายาว ดำscuba
เลนส์ด้านบนใช้มองไกล เลนส์ด้านล่างใช้มองใกล้ เหมาะกับการดำscuba เพราะราคาเลนส์ไม่แรงเหมือน เลนส์progressive

เนื่องจากเลนส์ bifocal มีจุดโฟกัส 2 จุด คือ จุดมองไกล กับจุดมองใกล้ การตัดจึงต้องทำการ วัดค่าพารามิเตอร์ ขณะที่ใส่แว่น (position of wear) เพื่อวางโฟกัส จุดมองไกล กับจุดมองใกล้ จึงจะใช้งานได้

สายตายาวตามอายุ ดำscuba
position of wear คือการหาจุดโฟกัสในตำแหน่งมองไกล และมองใกล้
สายตายาวตามอายุ ดำscuba
ตัวอย่างใน card มีทั้งค่าสาตามองไกล และมองใกล้

สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่  Line

 

สายตายาว ดำscuba

แว่นไททาเนี่ยม Free Form Green, German design , Semi Rim

Free Form Green กรอบแว่นไททาเนี่ยม Minimal Concept บานพับไม่ใช้น๊อตสกรู ทำจากวัสดุ Beta-Titanium มีคุณสมบัติ เบากว่าวัสดุอื่นเท่าตัว ยืดหยุ่นกว่า pure titanium ทนการกัดกร่อนจากกรด และ ด่าง เคลือบสีด้วยระบบปะจุไฟฟ้า Vapour Deposition technique


1 - 60 of 83 items

Oakley ใส่แล้วมึน

กรอบแว่นสายตา Oakley ทำไมตัดเลนส์สายตาใส่แล้วมึน ทั้งๆที่ค่าสายตาเท่ากับแว่นเดิมที่ใส่อยู่ทุกวัน 

Oakley ใส่แล้วมึน

กรอบ Oakley เป็นที่นิยมในกลุ่มที่ต้องการแว่นสายตาทรงสอร์ต จำนวนมาก เนื่องจากรูปทรงที่แตกต่าง มีความโค้ง มีมุมลาด ที่ใส่แล้วดูเป็น sport man มากๆ แต่เมื่อใส่เลนส์เข้าไป มีทั้งคนที่ใส่ได้ปกติ และคนที่ใส่แล้วมึน ทำไมเหตุการ์ณแบบนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งๆที่เทคโนโลยี่ ของเลนส์ในปัจจุบันมีมากมาย แว่นสายตาทรงสปอร์ต ใส่แล้วมึน

อะไรทำให้เกิด เหตุการ์ณแบบนี้ เราลองมาตัวอย่างของกรอบแว่น Oakley รุ่น Crosslink 2 รุ่นนี้ ที่ดูด้วยตา ความโค้งใกล้เคียงกันมาก

Oakley ใส่แล้วมึน
Cross link 8118 Base Curve 4
oakley ใส่แล้วมึน
ค่าที่ได้จากเครื่องวัดพารามิเตอร์

นี้คือค่า พารามิเตอร์ของ Oakley Cross link รุ่น 8118

Oakley ใส่แล้วมึน
Cross link 8080 Base Curve6

oakley ใส่แล้วมึน
ค่าพารามิเตอร์ บ่งบอกว่ากรอบแว่น มีความโค้ง มุมเท ระยะห่างตากับเลนส์มากน้อยแค่ไหน การจ่ายเลนส์ให้เหมาะสมกับค่าพารามิเตอร์ จึงจะแก้ปัญหาได้

ภาพนี้ก็ Oakley Cross Link เหมือนกัน แต่เป็นรุ่น 8080

หลังจากทำการทดสอบโดยใช้ผู้ใส่คนเดียวกัน แต่ใส่แว่น Oakley Crosslink 2 รุ่น ทำการถ่ายภาพด้วยกล้อง Spark 4 ของบริษัท Shamir Lens สิ่งที่พบคือคนเดียวกันใส่กรอบแว่นรุ่น Crosslink ที่เป็นคนละ Model แต่มีรูปร่างคล้ายกัน คือดูด้วยตาเปล่า จะมีความโค้งเท่าๆกัน

 

เครื่องวัดค่าพารามิเตอร์

แต่เมื่อตรวจสอบด้วยเครื่องวัดพารามิเตอร์ ค่าพารามิเตอร์แว่นของทั้ง 2 model ออกมาแตกต่างโดยสิ้นเชิง

นี่คงเป็นสาเหตุที่สงสัยกันมานาน ว่าทำไม จึงมีทั้งมึน และไม่มึน

Oakley ใส่แล้วมึน
กรอบ oakley crosslink 2 รุ่น ที่ต้องใช้เลนส์สายตาต่างกัน
Oakley Crosslink 8080 กับ 8118

คนที่มึน ถ้าค่าสายตาถูกต้อง การตั้งจุดโฟกัสถูกต้อง ก็เหลือเรื่องเดียวคือ spec lens ที่ไม่ถูกต้อง คือ เลนส์สต๊อกที่ผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถใช้ได้กับแว่นที่มีองศาโค้งมากๆได้ เช่นในรูปคือ Oakley Crosslink 8080 เป็นต้น

Oakley ตัดเลนส์ใส่แล้วมึน
They alway have Correlation between eyewear frame and Rx-lens. Don’t make a mess.

ดังนั้น ก่อนซื้อกรอบแว่น เราต้องรู้ก่อนว่า เลนส์สายตาที่ใช้ได้ เป็นเลนส์แบบไหน เพราะค่าเลนส์ของกรอบโค้งมากๆ ราคาเลนส์จะสูงกว่า เนื่องจากเป็นเลนส์เฉพาะบุคคล ที่ต้องชดเชยค่าสายตา ตามพารามิเตอร์ของกรอบแว่น ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องมือเฉพาะหลายตัวในการวัด และ ทำเลนส์สายตา กรอบโค้งไม่สามารถตัดด้วยเลนส์สำเร็จรูปได้ คนใส่จะเกิดอาการมึนหัวคลื่นไส้เป็นส่วนใหญ่

Oakley ใส่แล้วมึน
กรอบแว่นสายตาที่เป็นทรงสปอร์ต จำเป็นต้องใช้เครื่องวัดที่ระบุค่าพารามิเตอร์ได้ จึงจะจ่ายเลนส์ที่ใช้งานได้
Oakley ใส่แล้วมึน
Oakley Plazlink
Oakley ใส่แล้วมึน
Plazlink

ในขณะที่กรอบที่มีความโค้งน้อย สามารถประหยัดค่าเลนส์ได้ ด้วยการใช้เลนส์สำเร็จรูปที่มีราคา ไม่แพงมาก ขึ้นกับ Brand ของเลนส์แต่ละยี่ห้อ 

Oakley ใส่แล้วมึน
Oakley Activate A

และนี่คำตอบของเรื่องนี้ ทำไมกรอบแว่นสายตา Oakley ตัดเลนส์ใส่แล้วมึน เพราะมันมีทั้งโค้งมาก โค้งน้อยนั่นเอง

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
เครื่องวัดพารามิเตอร์ AI จำเป็นอย่างยิ่งในการตัดเลนส์โปรเกรศซีฟ
มีปัญหากับแว่นโปรเกรศซีฟ
progressive individual lens จะนำค่าพารามิเตอร์มาคำนวณ เหมาะกับคนที่มีค่า add สูง และต้องการใช้งานทุกระยะได้เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องคอยหันหน้าตามจอ เวลามองคอม และ อ่านหนังสือ

แว่นที่มีความเป็น สปอร์ต เมื่อนำมาตัดเลนส์สามารถทำได้ในปัจจุบัน ด้วย software ที่มีการถูกพัฒนาออกมา จากเดิมที่เรามักได้ยินว่า ตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ต้องใช้กรอบที่สามารถปรับแป้นรองจมูกได้ แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป 

สอบถาม LINE ME

แว่นไททาเนี่ยม Free Form Green, German design , Semi Rim

Free Form Green กรอบแว่นไททาเนี่ยม Minimal Concept บานพับไม่ใช้น๊อตสกรู ทำจากวัสดุ Beta-Titanium มีคุณสมบัติ เบากว่าวัสดุอื่นเท่าตัว ยืดหยุ่นกว่า pure titanium ทนการกัดกร่อนจากกรด และ ด่าง เคลือบสีด้วยระบบปะจุไฟฟ้า Vapour Deposition technique


1 - 60 of 83 items

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ หลายคนตัดเลนส์ progressive มาแล้วใช้ไม่ได้ มองไม่ชัด มึนหัว คลื่นไส้มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ

หรือถ้าเราเป็นหนึ่งในคนที่เจอปัญหาเหล่านี้ เช่น มองไกล กับมองคอม ไม่ชัด แต่อ่านหนังสือชัด ต้องเงยหน้าอ่านหนังสือ มองคอมได้ไม่เต็มจอ ต้องหมุนหน้าจากซ้ายไปขวา มีภาพบิดเบือนด้านข้าง เวลามองคอม หรืออ่านหนังสือ

เรื่องแบบนี้มักเป็นปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟที่หลายคนผิดหวัง จนไม่คิดจะกลับไปใช้อีกเลย

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟ เปรียบเหมือน มีดพับสวิส ที่มองได้ทุกระยะ แต่ก็ไม่สามารถมองได้ดีเท่าเลนส์ที่มองได้ระยะเดียว
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
กรอบที่ใช้ทำเลนส์โปรเกรสซีฟ

เลนส์โปรเกรสซีฟ เปรียบเหมือนมีดพับสวิส ที่เป็นมีดเอนกประสงค์ มีทั้งมีด ที่ตัดเล็บ กรรไกร หลายอย่างในอันเดียว แต่ก็ไม่มีอันไหนใช้งานได้ดีเท่ากับเครื่องมือเดี่ยวๆ มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟมีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ

เช่นเดียวกับแว่นโปรเกรสซีฟ ใช้งานได้ทุกระยะ แต่ก็ไม่มีระยะไหน ใช้งานดีเท่ากับ แว่นที่เป็น Single lens เดี่ยวๆ เหมือนแว่นมองไกลอย่างเดียว หรือแว่นอ่านหนังสืออย่างเดียว

มีปถญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
โครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟ จะมีค่าสายตา หลายค่าในเลนส์เดียว
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ค่าสายตาบนเลนส์โปรเกรสซีฟ จะมีค่ามองไกล และ ค่า Add ที่เป็นค่ามองใกล้
เลนส์โปรเกรสซีฟ มีลักษณะที่ต้องได้อย่าง เสียอย่าง เสมอ เช่น ต้องการพื้นที่อ่านหนังสือกว้างๆ ก็จะทำให้พื้นที่มองคอมแคบลง 
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ได้อย่าง เสียอย่าง คือ ถ้าเราใช้ short corridor ก็จะทำให้พื้นที่มองคอมแคบ ถ้าเราใช้ long corridor ก็จะทำให้พื้นที่อ่านหนังสือแคบลง

แล้วอะไรบ้างที่เป็นปัญหาทำให้คนตัดแว่นโปรเกรสซีฟ แล้วผิดหวังอย่างแรง

1.การเลือกกรอบที่เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟ  ผู้ใส่มักไม่รู้ว่า กรอบแบบไหนเหมาะกับเลนส์ progressive
Oakley ตัดเลนส์ใส่แล้วมึน
เทคโนโลยี ทำให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ เช่นกรอบแว่นโปรเกรสซีฟ ควรใช้กรอบที่สามารถปรับแป้นจมูกได้ ในอดีตเคยเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะ Software ที่ใช้ฝนเลนส์สามารถทำให้ได้
2.การวัดค่าพารามิเตอร์ ขณะใส่แว่น หรือ position of wear
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
position of wear ปัญหาที่พบบ่อยกับแว่นโปรเกรสซีฟ ที่ไม่ชัด
มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
การวัด position of wear จะทำให้รู้ว่าแว่นที่เราใส่จริงๆ จุดโฟกัสเลนส์จะไปอยู่ตรงไหนของเลนส์
Oakley ใส่แล้วมึน
เลนส์โปรเกรสซีฟจะใช้งานได้ ทุกระยะ การวัดค่าพารามิเตอร์ต้องมีความแม่นยำ การใช้ปากกาจุดลงบนเลนส์ในการตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ มักเกิดความคลาดเคลื่อนเสมอ
มีปักับแว่นโปรเกรสซีฟ
การวัดพารามิเตอร์กรอบแว่น กับผู้ใส่ เลนส์จะถูกวางจุดโฟกัสการมองได้แม่นยำ ทำให้การใช้งานง่ายขึ้น
3.ระยะ corridor หรือระยะที่ใช้มองคอม มีความสัมพันธ์กับ position of wear และ จุดประสงค์หลักในการใช้งาน
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ระยะ corridor คือพื้นที่มองคอม ซึ่งมีทั้งสั้น ปกติ และยาว หากเน้นงานคอม ก็ควรเลือก corridor ปกติ หรือ ยาว ขึ้นกับกรอบแว่นที่เลือกมาตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ
มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ระยะ corridor ควรล้อตามกรอบแว่น และ ความเข้มข้นในการใช้งาน ของระยะต่างๆ
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
เครื่องวัดพารามิเตอร์ AI จำเป็นอย่างยิ่งในการตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ
4.การวัดค่าสายตามองไกล และค่า add สำหรับมองใกล้ ที่ผิดพลาด

ค่าสายตาที่เราวัดได้ ในแต่ละร้านมักจะไม่เท่ากัน ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ควรเน้นค่าสายตาที่ไม่แรงเกินไป จนต้องเพ่งตา หรือเกร็งตาซึ่งเราจะรู้ตอนใส่เลนส์ทดลอง

มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
การตรวจวัดเบื้องต้น ด้วยเครื่อง Autorefractor
มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
การตรวจเช็คค่าสายตาแบบละเอียดด้วยเครื่อง Phoropter ในขั้นตอนที่ 2
มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีห
การใส่เลนส์ทดลอง ในขั้นตอนสุดท้ายของการวัดสายตา เพื่อเป็นการยืนยันค่าสายตาที่วัดจากเครื่อง phoropter ในขณะที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย
5. ผู้ใส่ ที่ไม่เคยใส่แว่นตาติดหน้ามาก่อน ต้องใช้เวลาฝึกการใช้เลนส์โปรเกรสซีฟนานกว่า คนที่ใส่แว่นตั้งแต่เด็ก

แว่นโปรเกรสซีฟ เป็นแว่นที่ต้องฝึกใส่ติดหน้าตลอดจึงจะปรับตัวได้เร็วขึ้น คนใส่ต้องเข้าใจโครงสร้างเลนส์ เช่น การมองคอมควรมองแบบเหลือบตาลง ไม่ใช่ก้มหน้ามองคอม เป็นต้น

ทำไมคนต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟ เมื่ออายุมากขึ้น
ปัญหาเรื่องสายตาตามอายุ ที่เกิดจากเลนส์ตาขาดความยืดหยุ่น เมื่ออายุมากขึ้น
มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
เลนส์ตาจะ relax เมื่อเรามองไกล และจะเพ่งจนเลนส์ตานูนขึ้นตามรูปขวา เมื่อเรามองใกล้

มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
เลนส์ตาจะเสื่อมตามอายุ ทำให้กำลังเพ่งลดลง เมื่อเราอายุเกิน 40 ปี จึงต้องใช้เลนส์สายตามาช่วย นี่คือจุดเริ่มต้นของคนที่ใส่แว่นหลังอายุ 40

เมื่อถึงเวลาต้องใช้ มันก็ต้องมี ดังนั้นเราจึงควรมีความรู้บ้าง ก่อนไปตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ ในฐานะผู้บริโภค สิ่งที่ควรรู้คือ

กรอบแว่นที่จะใส่เลนส์ progressive มีความสำคัญมากๆๆๆ (size and shape are very much matter)

มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
กรอบแว่นสำหรับตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ ควรมีค่าพารามิเตอร์อยู่ในค่ามาตรฐาน คือ 1.ความโค้งหน้าแว่น 2.มุมเทหน้าแว่น 3.ระยะห่างตากับเลนส์แว่นตา และสามารถปรับดัดได้

การเลือกกรอบแว่นสำหรับเลนส์ progressive

มีปัญหากับแว่นโปรเกรส
กรอบโปรเกรสซีฟ
มีปัญหากับแว่นโปรเกรส
กรอบแว่นโปรเกรสซีฟ
มีปกับแว่นโปรเกรส
กรอบแว่นโปรเกรสซีฟ

มีปัญหากับแว่นโปรเกรส
กรอบที่ใช้ทำเลนส์โปรเกรสซีฟ
มีปัญหากับแว่นโปรเกรส
กรอบแว่นโปรเกรสซีฟ
มีปัญหากับแว่นโปรเกรส
กรอบแว่นโปรเกรสซีฟ
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
กรอบแว่นโปรเกรสซีฟ ไม่เน้นแฟชั่น

แว่น progressive อาจไม่ใช่คำตอบ

1.ความกว้างของกรอบที่เหมาะกับเลนส์ progressive คือใส่แล้วตาดำเราควรอยู่ประมาณกึ่งกลางแว่นตาเรา 
แว่น progressive อาจไม่ใช่คำตอบ
กรอบแว่นที่กว้างไป จะเป็นการเพิ่มพื้นที่บิดเบือน โดยไม่จำเป็น
แว่น progressive อาจไม่ใช่คำตอบ
กรอบแว่นที่ ความสูงน้อยเกินไป จะใช้งานยาก และไม่เหมาะกับคนที่เริ่มใส่ และอาจทำให้ พื้นที่อ่านหนังสือ ถูกเฉือนออกไปจากเลนส์
2.ความสูงของกรอบ คือระยะห่างระหว่างตาดำ กับจุดcenter ของ reading zone ที่ควรห่างประมาณ 18 มม หรือระยะความสูงของกึ่งกลางตาดำ กับขอบด้านล่างของกรอบ ควรเหลือสัก 18 มม (minimum fitting height)
มีปัญหากับกับแว่นโปรเกรสซีฟ
ความสูงของเลนส์ ตัองไม่น้อยกว่า 30 มม.
มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
กรอบที่สามารถปรับ หน้าแว่นได้ จะช่วยในการปรับตำแหน่งการมองให้เหมาะสมกับคนใส่ได้
3.มุมเทหน้าแว่น ที่ความลาดเอียง 7 องศา +/- 4 องศา โดยประมาณช่วยไม่ให้ต้องเหลือบตาลงต่ำมากจนเกินไปเมื่อต้องการใช้อ่านหนังสือ เมื่อเทียบกับแว่นหน้าตรงตั้งฉาก 90 องศากับพื้น
4.ระยะห่างตาดำกับเลนส์ที่ระยะ 12-14 mm ถ้าใส่ชิดตาเกินไป จะทำให้zone อ่านหนังสือไม่ชัด เพราะเราจะเหลือบตาลงไม่ถึงตำแหน่งอ่านหนังสือ กรอบจึงควรปรับแป้นรองจมูกได้ 
5. ความโค้งของกรอบที่ไม่เกิน 5 องศา +/- 2 องศาโดยประมาณ จะช่วยรักษาระยะห่างของตาดำ กับเลนส์แว่นตามมาตรฐาน ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น 

การเลือกกรอบที่ได้มาตรฐาน สามารถดัดได้ทุกชิ้นส่วน

มีปกับแว่นโปรเกรสซีฟ
กรอบแว่นโปรเกรสซีฟที่ดัดได้ทุกส่วน จะช่วยให้การใช้เลนส์โปรเกรสซีฟง่ายขึ้น

ควรหลีกเลี่ยงกรอบแว่นแฟชั่นที่ใหญ่เกิน ในการตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
กรอบแว่นแฟชั่น ที่มีขนาดใหญ่เกินไป จะทำให้การใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ ไม่สบายตา
แว่นสายตาทรงสปอร์ต ใส่แล้วมึน
ค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่น

เมื่อเข้าใจเรื่องกรอบที่เหมาะสมแล้ว ควรเข้าปัญหาที่มักเกิดจากการ fitting แว่น หรือการวัดพารามิเตอร์ขณะใส่แว่น ถ้าวัดผิดจะมีผลกระทบมากจนใส่ไม่ได้

1. มองไกล กับมองคอม ไม่ชัด แต่อ่านหนังสือชัด 

เกิดจากการ fitting ตำแหน่งตาดำผิด Pupil Height สูงไป

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
มองไกลไม่ชัด แต่ระยะกลาง กับใกล้ชัด
2.มองไกลชัด แต่มองคอมกับอ่านหนังสือไม่ชัด

เกิดจากการ fitting PH ต่ำไป

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
มองไกลชัด มองกลาง กับ ใกล้ไม่ชัด เป็นปัญหาของ PH ที่ต่ำกว่าจริง
3. เกิดจากการ วัดค่า PD ผิด มีผลทำให้การมองระยะกลาง และใกล้ บิดเบือน
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ค่า PD กว้างกว่า ความจริง
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ค่า PD น้อยกว่าความจริง
ทั้งหมดนี้เกิดจากการ วัดค่าพารามิเตอร์ ขณะใส่แว่นที่ผิดพลาดทั้งสิ้น
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ทุกครั้งที่ตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ต้องวัดค่าพารามิเตอร์ขณะใส่แว่น
แล้วการใช้เลนส์โปรเกรสซีฟราคาประมาณไหนถึงจะดี? คำตอบก็คือ ถ้าเราเลือกกรอบที่อยู่ในค่ามาตรฐาน เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นเริ่มต้น ไปถึงรุ่นกลาง ก็สามารถใช้ได้แล้ว 
มีปกับแว่นโปรเกรสซีฟ
นอกจากค่าสายตาแล้ว กรอบแว่นที่ได้มาตรฐาน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของเลนส์โปรเกรสซีฟได้ สำหรับคนที่มีงบจำกัด
ราคาเลนส์โปรเกรสซีฟในปัจจุบัน ราคาเลนส์จะวิ่งตาม software ความเป็นบุคคลที่แตกต่างจากค่ามาตรฐาน หรือค่า default
มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
การ fitting แว่น ด้วยเครื่องวัดพารามิเตอร์ จะทำให้เรารู้ว่า ต้องใช้เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นไหน

ส่วน Index ของเลนส์ เช่น 1.5, 1.6, 1.67 และ 1.74 และ Coating ต่างๆ เป็นปัจจัยถัดมา

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ผู้ผลิตเลนส์โปรเกรสซึฟทุกค่าย จะมีการกำหนดโครงสร้างราคาเลนส์ ตามความซับซ้อนของโปรแกรม ที่ใช้คำนวณ โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ Good Better Best
นอกจากกรอบแว่นแล้ว ปัจจัยที่จำเป็นต่อราคาเลนส์โปรเกรสซีฟ คือ

1. ค่า Add เป็นสัดส่วนที่ผกผัน กับ พื้นที่มองคอม และ อ่านหนังสือ  เช่น ค่าAdd 2.50 diopter เราต้องเข้าใจว่า เลนส์จะมีพื้นที่เบลอด้านข้างมากกว่า คนที่มีค่า Add 1.50 diopter ในเลนส์รุ่นเดียวกัน

มีปักับแว่นโปรเกรสซีฟ
ค่า add ยิ่งมาก พื้นที่มองคอม กับ อ่านหนังสือจะน้อยลง ตามค่า Add ที่เพิ่มขึ้น

ดังนั้นถ้าเรามีค่า Add มากกว่า 1.50 เราควรเลือกเลนส์ที่อยู่ในกลุ่ม Better หรือราคาระดับ กลางๆ ขึ้นไป

ใส่แว่นโปรเกรสซีฟแล้วมึน
ค่า Add ที่สูงจำเป็นต้องใช้เลนส์ที่มีเทคโนโลยีมากขึ้น ในการลดพื้นที่เบลอด้านข้าง

2.กรอบแว่นสปอร์ต จะมีความโค้งมากกว่าปกติ คือองศาโค้ง มากกว่า 7 องศา โดยปกติความโค้งอยู่ที่ 25-35 องศา จึงจำเป็นต้องใช้เลนส์เฉพาะทางที่รองรับความโค้ง ที่เกินค่ามาตรฐาน

เลนส์สายตา free form
กรอบแว่นสปอร์ตส่วนใหญ่ความโค้ง จะอยู่ที่ 30 องศาขึ้นไป การใช้กรอบที่มีความโค้งมาก จำเป็นต้องใช่เลนส์ที่ใช้ค่าพารามิเตอร์ ส่วนบุคคล 100% จึงจะไม่มีปัญหาการมอง

3.ความต้องการใช้งาน ถ้าต้องการใช้งานเฉพาะทาง ที่ต้องการพื้นที่มองคอม หรือ พื้นที่อ่านหนังสือ เพิ่มขึ้น จำเป็นต้องใช้เลนส์ที่มีราคาสูงขึ้น

มีปัญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ราคาเลนส์ก็ขึ้นกับดีไซน์ความต้องการการใช้งาน เช่นต้องการใช้งานทุกระยะพอพอกัน
มีปญหากับแว่นโปรเกรสซีฟ
ค่า add 1.25 สามารถใช้เลนส์ในระดับ เริ่มต้น หรือ ระดับ Good ได้ ถ้าค่าพารามิเตอร์อยู่ในกรอบของค่ามาตรฐาน
ราคาเลนส์โปรเกรสซีฟ จะถูกจะแพง ขึ้นกับ การฝืนธรรมชาติของเลนส์ ที่ได้อย่าง จะเสียอย่าง ถ้าเราต้องการทุกอย่าง เช่นมองได้กว้างขึ้นทุกระยะ นี่คือการฝืนธรรมชาติ ที่เราต้องจ่ายเพิ่มขึ้น เพราะ Software ที่ใช้ฝืนธรรมชาติ มีราคาที่ต้องแลกมา

ดังนั้นคนที่ใส่เลนส์โปรเกรสซีฟไม่ได้ ลองย้อนกลับไปดูว่า เค้าวัดค่าพารามิเตอร์ขณะที่เราใส่แว่น ยังไง?

มีปกับแว่นโปรเกรสซีฟ
Position of wear มีผลต่อประสิทธิภาพของเลนส์โปรเกรสซีฟ

สอบถามเพิ่มเติม Click Here

 

แว่นไททาเนี่ยม Free Form Green, German design , Semi Rim

Free Form Green กรอบแว่นไททาเนี่ยม Minimal Concept บานพับไม่ใช้น๊อตสกรู ทำจากวัสดุ Beta-Titanium มีคุณสมบัติ เบากว่าวัสดุอื่นเท่าตัว ยืดหยุ่นกว่า pure titanium ทนการกัดกร่อนจากกรด และ ด่าง เคลือบสีด้วยระบบปะจุไฟฟ้า Vapour Deposition technique