แว่นจักรยาน แว่นใส่วิ่ง แว่นกอล์ฟ ต่างกันมั้ย
เป็นคำถามที่คาใจตั้งแต่ผมซื้อเสือหมอบคันแรกปี 2007 ผมหาแว่นจักรยานด้วยการใส่ key word ว่า “แว่นกีฬา” พิมพ์ลงใน Google ก็เจอ web site ของแว่นกีฬา (อันนี้บอกก่อนว่าเป็นวิธีหา แว่นจักรยาน แบบคนทั่วไป) ที่มีทั้งแว่นจักรยาน แว่นใส่วิ่ง แว่นกอล์ฟ และแว่นกีฬาประเภทอื่นๆ เด้งขึ้นมา ในที่สุดผมก็เจอแว่นที่ถูกใจ ทั้งรูปทรง spec แต่เป็นแว่นที่อยู่ในกลุ่ม แว่นกอล์ฟ มาใส่เป็นแว่นจักรยานแทน ซึ่งไม่ผิดอะไร เพราะคนเราไม่ได้เล่นกีฬาอย่างเดียว บางคนวิ่งด้วย ปั่นด้วย บ้างก็ ตีกอล์ฟด้วย วิ่งด้วย และผมก็เชื่อว่ามีคนที่ปั่นด้วย และ ตีกอล์ฟ ด้วย
แล้วอะไรคือเส้นแบ่งระหว่าง แว่นจักรยาน แว่นใส่วิ่ง แว่นกอล์ฟ ว่ามันต่างกันมั้ย
แว่นใส่วิ่ง แว่นจักรยาน แว่นกอล์ฟ ทำหน้าที่สำคัญคือ ลดแสงจ้า ป้องกันรังสี uv ที่อันตรายต่อดวงตา และป้องกันอุบัติเหตุที่ดวงตา ในระหว่างเล่นกีฬา โดยมีมาตรฐานที่เรียกว่า Impact resistance เป็นเกณฑ์วัดคุณภาพ ดังนั้นสิ่งทำให้แว่นต่างกันก็คือ
1. สภาพแวดล้อม หรือ สนามกีฬาแต่ละประเภท ต่างกัน เช่นสนามจักรยาน สนามวิ่ง สนามกอล์ฟ
2. การเคลื่อนไหวของร่างกายของกีฬาแต่ละอย่าง ที่ต่างกัน วิ่งร่างกายจะเคลื่อนไหวมากที่สุด
3. ความอิสระของมือในขณะเล่นกีฬา ที่ต่างกัน ปั่นจักรยานต้องจับแฮนด์ตลอดเวลา
จะใช้ความเร็ว มีเรื่องของลม ฝุ่น แสงแดดมากน้อยต่างกันขึ้นกับเวลา และสถานที่ไปปั่น แสงสะท้อนจากพื้นผิววัสดุ พื้นถนน ยังไงต้องเจอแน่ โอกาสการถูกหินที่ดีดจากรถคันหน้า หรือ คันข้างๆ ความกระชับของแว่นที่ต้องมี เพราะมือขาดอิสรภาพ ต้องจับแฮนด์จักรยานค่อนข้างตลอดเวลา
ดังนั้นแว่นจักรยานควรมี
1. Uv protection กันรังสี uv
2. Custom fit ปรับให้กระชับได้
3. Impact resistance แว่นจักรยาน ต้องทนแรงกระแทก
4. Wrap around ทรงสปอร์ต
5. Reduce glare เลนส์ลดแสงจ้า
6. ควรเป็นเลนส์ Photochromic lens หรือ เลนส์ปรับแสง สำหรับคนที่ปั่นกลางวันและกลางคืน
7.สีเลนส์ ที่เหมาะสม ได้แก่ น้ำตาล, เทา และ rose amber สีเทาจะลดแสงจ้าได้ดีกว่า สีน้ำตาล ส่วนสีน้ำตาลจะให้ contrast มากกว่า สีเทา ในขณะที่สี Rose amber เป็นสีที่ให้ contrast มากที่สุด
วิ่งเป็นอีกกีฬาหนึง ที่มีการเคลื่อนไหว แบบต่อเนื่องหรือ aerobic จังหวะการวิ่งค่อนข้างสม่ำเสมอ มือยังเป็นอิสระอยู่ ต่างกับจักรยานที่มือต้องกำ handจักรยาน ไว้ตลอดเวลา ดังนั้น option ของแว่นบางอย่างอาจไม่จำเป็น เช่น ลดการเกิดฝ้า หรือลดการเกาะตัวของหยดน้ำ แต่สิ่งที่จำเป็นมากกว่าคือ ลดการเสียดสี เพราะแว่นจะเด้งตามจังหวะการวิ่งนั่นเอง และสิ่งที่ช่วยลดการเสียดสีที่ดีที่สุด คือน้ำหนักแว่น
ดังนั้นแว่นใส่วิ่งควรมี
1.uv protection
2. Impact resistance standard
3.Wrap around ทรงสปอร์ต
4.Light weight ยิ่งเบายิ่งดี ปกติแว่นกันแดดกีฬาทั่วไป น้ำหนักแว่นจะอยู่ประมาณ 30-35 กรัม ถ้าน้อยกว่านี้ถือว่าผ่านครับ
5.สีเลนส์ที่เหมาะกับสิ่งแวดล้อม ช่วงเวลาการออกกำลังกาย แดดจ้าหรือไม่มีแดด
กอล์ฟ
เป็นกีฬาที่ใช้เวลานานที่สุด สำหรับการออกรอบ ลืมต้นไม้ได้เลย นักกอล์ฟ อยู่ในที่ที่มีแสงจ้าเป็นหลัก หรือ bright light ต้องการแว่นที่ลดแสงจ้า สีเลนส์ควรให้สีที่ใกล้เคียงสีธรรมชาติ ได้แก่ เขียว น้ำตาล เทา แต่เนื่องจากสิ่งแวดล้อมเป็นหญ้า สีเขียวจึงเป็นสีที่ช่วยให้เห็นความชัด ของลูกกอล์ฟ กับ หญ้าได้ดีที่สุด
ดังนั้นแว่นกอล์ฟ ควรมี
1. UV protection
2. Reduce glare ลดแสงจ้า
3. Impact resistance ต้องผ่านมาตรฐานตัวนี้
4. Custom fit คือกระชับไม่ลื่นไหล
5.สีเลนส์ที่ให้ contrast ของสนามคือเลนส์สีเขียว/green
ถ้าจะคำถามนี้ว่า แว่นจักรยาน แว่นใส่วิ่ง แว่นกอล์ฟ ต่างกันมั้ย
เอาเป็นว่า โครงสร้างพื้นฐานเหมือนกัน ต่างกันที่รายละเอียด ของสีเลนส์ และ options ที่เพิ่มเติมเข้ามา สิ่งที่ควรพิจารณา 9 ข้อ คือ
1. วัสดุที่ทำเลนส์ ต้องเป็น PC ส่วนสติ๊กเกอร์ที่ติดตรงเลนส์ว่ากัน uv 100% ไม่ได้การันตีว่ากันแน่นอน ตัวที่ การันตีคือ การรับประกันของเจ้าของ แบรนด์สินค้า บางครั้งเลนส์ทำจาก polycarbonate (PC) เหมือนกัน แต่เกรดของ PC ก็แตกต่างกัน มีทั้งเม็ดใหม่ และเม็ด recycle และแว่นที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะใช้ พลาสติกที่เรียกว่า triacetate เป็นวัสดุทำเลนส์ ซึ่งกัน uv ได้เพียง 40% จึงควรพิจารณาจากสินค้าที่มี brand
2. สีเลนส์แว่นในที่นี้หมายถึง สีเลนส์จริงๆของแว่น ต้องเหมาะกับกีฬาที่เล่นด้วย เช่นถ้าตีกอล์ฟ อย่างเดียว สีเขียวเหมาะสม แต่ถ้าวิ่งด้วย ตีกอล์ฟด้วย สีน้ำตาลเหมาะสมกว่า ถ้าใช้งานในแดดจ้าตลอดเวลาก็สีเทา ถ้าใช้กลางคืนอย่างเดียวก็สีเหลือง ถ้าปั่นด้วยวิ่งด้วย สีน้ำตาล หรือ เทา แต่ถ้าปั่นอย่างเดียว ได้ทั้ง เทา น้ำตาล Rose amber
3. custom fit คือ กรอบแว่นกีฬาที่สามารถปรับได้ ตรงส่วนที่เป็นแท่นรองจมูก หรือ ส่วนปลายของขา เพื่อให้กระชับหน้า และ ศีรษะ แต่ละบุคคล
4. เลนส์ ที่ให้ contrast ดีคือสีน้ำตาล จะใกล้เคียงกับ สีธรรมชาติ หรือ สีตอนที่เราไม่ใส่แว่น แต่สีเลนส์ที่ให้ความสวยงาม และ contrast สูง คือ Rose amber
5.Vent designed ลดการเกิดฝ้า ถ้าวิ่งอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องมี ถ้าวิ่งด้วย ปั่นด้วยก็สมควร ต้องมี
6.Hydrophobic coating ลดการเกาะตัวของเหงื่อที่เลนส์ ถ้าเป็นแว่นจักรยานควรจะมี เพราะมือเราต้องจับแฮนด์ตลอดเวลา
7. เลนส์กันกระแทก ผ่านมาตรฐาน impact resistance แว่นกีฬาทุกชนิดต้องมี มาตรฐานตัวนี้คือความปลอดภัย ที่เกี่ยวกับดวงตา เรื่องนี้สำคัญมากๆ สำหรับแว่นกันแดดกีฬา
8. น้ำหนักเบา ลดการเสียดสีได้ดี ใส่ได้นาน เหมาะกับคนที่ต้องการใส่แว่นกีฬานานๆ
9.ถ้าคนที่เคยใช้แว่นกันแดดราคาถูกๆบ่อยๆ อาจเคยเจอว่าใส่แล้ว ภาพเบี้ยว แว่นกันแดดกีฬา จึงมีอีกมาตรฐานหนึง ที่เรียกว่า optical class เป็นการวัดค่าบิดเบือนของเลนส์ หรือที่เรียกว่า distortion มี 3 ระดับคือ 1,2,3 optical class1 คือมาตรฐานสูงสุด
สอบถามเพิ่มเติม คลิก
Progear แว่นสายตาสำหรับกีฬา ถ้ารองเท้ากีฬายังแบ่งตามประเภทกีฬา แว่นสายตายิ่งต้องแบ่งมากกว่า
Featured Products











