วิ่งแข่ง วิ่งปกติ กับแว่นใส่วิ่ง
การวิ่งแข่ง ตามงานวิ่งที่จัดขึ้นในสถานที่ต่างๆ ที่ดึงดูดเราให้เข้าร่วมเพื่อพาคนในครอบครัว หรือ คนใกล้ชิดไปออกกำลังกาย กลายเป็นส่วนหนึ่งของคนหลายคนไปแล้ว ซึ่งแตกต่างจากการวิ่งปกติที่วิ่งทุกวันในหมู่บ้านตอนเช้ามืดก่อนไปทำงาน และเราจะเริ่มเห็นว่า แว่นใส่วิ่งจะเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของนักวิ่ง ขึ้นมา เหมือนนักปั่นจักรยาน ที่สวมแว่นจักรยาน
ปรากฏการณ์แบบนี้ เป็นปรากฎการณ์ ที่เกิดขึ้นในกลุ่มนักปั่นจักรยาน ที่เริ่มจากการปั่นไปซื้อของคนเดียว มาเป็นการปั่นเป็นกลุ่ม จากที่ไม่เคยใส่หมวก ใส่แว่น หลายคนก็หันมาสวมหมวกและใส่แว่นจักรยาน ทั้งๆที่ไม่มีกฎหมายบังคับ
อะไรทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างนักปั่น กับนักบิด
เมื่อย้อนกลับมาที่นักวิ่ง จากเดิมที่วิ่งคนเดียวก่อนไปทำงาน เราจะเห็นว่าแทบไม่มีใครใส่แว่นวิ่งในตอนเช้า ทั้งๆที่รู้ว่าแว่นใส่วิ่งช่วยป้องกันอันตรายต่อดวงตา แต่เมื่อมีการวิ่งเป็นกลุ่มตามการจัดแข่งวิ่ง เราจะเห็นสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป คือ ความสอดคล้องของกลุ่ม ที่จะมีชุดของกลุ่ม และแว่นใส่วิ่งก็เริ่มถูกนำเข้าสู่กลุ่มนักวิ่งเช่นกัน
ในไม่ช้าเราจะเห็นปรากฏการณ์ที่นักวิ่ง จะใส่แว่นวิ่ง เหมือนนักปั่นเช่นกัน

แว่นใส่วิ่งได้ถูกพัฒนาขึ้นมาหลายอย่าง ทั้งทรงแว่น การออกแบบ วัสดุที่มีน้ำหนักเบา และเลนส์แว่นใส่วิ่ง ก็เป็นอีกส่วนหนึงที่ต้องเลือกให้เหมาะกับกิจกรรมการวิ่งของเรา
ปกติถ้าเราวิ่งตอนเช้ามืดก่อนอาทิตย์ขึ้น แว่นอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็น
แต่ระยะหลังกิจกรรมการวิ่งมีมากขึ้น และระยะทางที่ไกลขึ้น สถานที่ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราใช้เวลานานขึ้น และทำให้การวิ่งแข่งไม่สามารถเสร็จทันก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นแน่นอน แว่นใส่วิ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็นขึ้นมาทันที
และเลนส์ที่เหมาะกับกิจกรรมแบบนี้ที่เริ่มตอนเช้ามืด ไปจนถึงตอนสายๆ คือ เลนส์ปรับแสง หรือ เลนส์ photochromic และ เลนส์ที่ใช้งานได้ในที่แสงน้อย (low light) และ แสงมาก(bright light)
เลนส์ปรับแสง เป็นเลนส์ชนิดที่สามารถเปลี่ยนสีความเข้มของเลนส์ได้เมื่อเจอรังสี uv หรือการอยู่ในที่โล่ง สีเลนส์จะเข้มขึ้น และสีจะอ่อนลงเมื่อเลนส์ ไม่สัมผัสกับ uv หรืออยู่ในที่ร่ม (รังสีuv มากับแสงอาทิตย์ สามารถทะลุก้อนเมฆได้ สะท้อนจากพื้นผิวต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นถนน พื้นน้ำและพื้นผิวโลหะต่างๆ แต่ไม่สามารถทะลุกระจกรถได้)
เลนส์สีอ่อนด้านซ้ายของรูป คือเลนส์ก่อนที่จะสัมผัส รังสี uv แสงผ่านได้มาก จึงทำให้เรามองเห็นวัตถุรอบข้างในที่ที่มีแสงน้อย ได้ชัดเจน ในขณะที่เลนส์สีเข้มด้านขวา คือเลนส์ที่สัมผัส uv แสงผ่านได้น้อยลง ช่วยให้ไม่เกร็งตา เมื่อเจอแดด และช่วให้เราเห็นสิ่งแวดล้อม และวัตถุรอบข้างได้ชัดเจน ในที่ที่มีแสงจ้า เลนส์ปรับแสงจึงจำเป็น สำหรับนักวิ่งที่วิ่งตอนเช้ามืด จนแดดเริ่มออก หรือวิ่งตอนเย็นจนใกล้มืด
ส่วนคนสายตาสั้นที่ใส่แว่นสายตาวิ่ง ก็สามารถใช้เลนส์แบบนี้ได้ ด้วยการติดคลิปสายตา หลังแว่นใส่วิ่งเลนส์ปรับแสงได้
วัสดุที่ใช้ทำเลนส์ปรับแสง จะเป็น polycarbonate ที่ป้องกันการกระแทก และ กันรังสี uv
ส่วนสีเลนส์ปรับแสง จะมีทั้งมีน้ำตาล และสีเทา สีทั้งสองแบบให้ภาพที่แตกต่างกันตามคุณสมบัติของเลนส์
เลนส์สีน้ำตาล จะให้ภาพที่มี contrast สูง ในขณะที่เลนส์สีเทา จะให้ภาพที่เป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ทั้ง 2 สี ก็เปลี่ยนสี ได้เหมือนกันเมื่อเลนส์สัมผัส uv
การมองหาแว่นใส่วิ่งสักอัน อาจไม่ใช่การใส่แว่นอะไรก็ได้อีกต่อไป คนจะเริ่มมองหาแว่นที่มีคุณภาพสูงขึ้น และเลือกในสิ่งที่เหมาะกับกิจกรรม ของตัวเองเฉพาะเจาะจงมากกว่าแต่ก่อน เหมือนกีฬาปั่นจักรยาน ที่มีการใช้เลนส์ตั้งแต่เลนส์ปรับแสง สำหรับ การปั่นกลางวัน กลางคืน เลนส์ high contrast สำหรับพื้นที่ มี่มีร่มเงาสลับที่โล่ง เลนส์ mirror สำหรับ พื้นที่ที่มีแดดมาก นักวิ่งก็เช่นกัน


สอบถามรายละเอียด คลิก
Related Topics
http://sunglassesblogger.com/เลนส์แว่นจักรยาน-ใช้สีอ/
http://sunglassesblogger.com/แว่นกันแดดกีฬา-ใส่วิ่ง/
http://sunglassesblogger.com/แว่นจักรยาน-สายตา/
https://number2gadgetshop.wordpress.com/2017/02/05/แว่นใส่วิ่ง-running-sunglads/
https://number2gadgetshop.wordpress.com/2018/01/02/แว่นกีฬาสายตาสั้น-สาเหต/